รองเลขานายกฯ โว นโยบายรัฐบาล มาถูกทาง เชื่อเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มพื้นตัวอย่างแข็งแรง คาด GDP 66 ขยายตัว นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มั่นใจเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และมีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในอีก 4 ปีข้างหน้า ท่ามกลางการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลก
ถือเป็นผลจากการดำเนินนโยบายที่เหมาะสม และทันต่อสถานการณ์ของรัฐบาล ที่ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยมีสัญญาณบวกได้อย่างต่อเนื่อง
นายกรัฐมนตรี จึงกำชับให้ทุกหน่วยงานเร่งเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวมให้เติบโตในระยะต่อไปได้อย่างมั่นคง พร้อมรับต่อสถานการณ์ความท้าทายในระดับโลก
นายอนุชา กล่าวว่า กระทรวงการคลังคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2566 จะขยายตัวได้ถึงร้อยละ 3.8 แม้ต้องเผชิญกับสภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย โดยมีปัจจัยสำคัญจากการลงทุนของภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคในประเทศยังคงเป็นแรงหนุนหลักต่อเนื่องจากปี 2565 โดยในปี 2566 คาดการณ์ว่า จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมายังประเทศไทยกว่า 21 ล้านคน ซึ่งยังไม่รวมนักท่องเที่ยวจากจีน
นายอนุชา กล่าวว่า กระทรวงการคลังประเมินอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในระยะ 4 ปีข้างหน้า (2567 – 2570) มูลค่า GDP จะขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยในปี 2567 ขยายตัวร้อยละ 3.8 มูลค่ากว่า 19.77 ล้านล้านบาท ปี 2568 ขยายตัวร้อยละ 3.4 มูลค่ากว่า 20.78 ล้านล้านบาท ซึ่งถือเป็นปีแรกที่ไทยมีมูลค่า GDP เกิน 20 ล้านล้านบาท ปี 2569 ขยายตัวร้อยละ 3.4 มูลค่ากว่า 21.86 ล้านล้านบาท และปี 2570 ขยายตัวร้อยละ 3.3 มูลค่ากว่า 23 ล้านล้านบาท
นายอนุชา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมแรงร่วมใจ และดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลอย่างแข็งขัน มีส่วนร่วมในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่ามูลค่าเศรษฐกิจจะขยายตัวต่อเนื่อง ซึ่งถือว่าแนวทางการทำงานของรัฐบาลนั้นได้ดำเนินมาอย่างถูกต้อง สั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งทำงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระยะต่อไป โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวซึ่งเป็นภาคส่วนสำคัญที่สร้างมูลค่ามหาศาลแก่เศรษฐกิจไทย
ชูวิทย์ ส่งข้อความเตือน ประยุทธ์ หากไม่ปราบทุนจีนสีเทาอย่างจริงจัง คอยดูแล้วกันว่าตอนเลือกตั้งจะโดนลงโทษอะไร นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตส.ส.หัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กหลังเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม หลังงานเปิดตัวเป็นสมาชิกรวมไทยสร้างชาติอย่างเป็นทางการ และได้ร้องเรียนขอให้ปราบกลุ่มทุนจีนสีเทาอย่างจริงจังนั้น
นายชูวิทย์ส่งคำเตือนระบุว่า หากไม่รักษาสัญญา เลือกตั้งครั้งหน้าเจอกัน โดยข้อความเต็มๆระบุว่า “ประชาชน กับ นายกฯ ประยุทธ์
ผมมานั่งพูดอยู่ข้างถนน จุดเทียนเรียกร้องเรื่องทุจริตคอรัปชั่น และทุนจีนสีเทา เป็นตัวแทนของประชาชน โดยไม่ไดัสังกัด หรือแอบอิงพรรคใด ประเด็นของผมนั้นมุ่งตรงไปเรื่องเกี่ยวกับการทุจริตคอรัปชั่น และทุนจีนสีเทา เมื่อวันนี้ท่านนายกฯ เป็นนักการเมือง ไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ
ส่วนผมนั้นเป็นเพียงประชาชน ที่ตั้งคำถามถึงความไม่โปร่งใสของหน่วยงานรัฐ นักการเมือง คนใกล้ชิด วงศาคณาญาติ ท่านในฐานะนายกรัฐมนตรี ก็ควรจะตอบประชาชนอย่างผม หลังจากนั่งรออยู่นานสองนาน ก็มีคนมาสะกิดให้ไปพบนายกฯ เมื่อผมเข้าไป ท่านถามผมว่า “ชูวิทย์มีอะไรว่ามา” ผมบอกว่าเรื่องทุนจีนสีเทาเป็นเรื่องที่ท่านต้องจัดการ และ ผบช.น. ควรถูกย้ายไปช่วยราชการ นายกฯ ตอบว่า “นายกฯ ก็มีขั้นมีตอน ไม่สามารถจะย้าย หรือจัดการอะไรได้ทันทีตามใจชูวิทย์” ดังนั้นจึงขอเวลา ให้ผมแสดงหลักฐานกับจเรตำรวจแห่งชาติ หากมีหลักฐานจะฟันไม่เลี้ยง และจะลงมือจัดการเรื่องทุนจีนสีเทา
ส่วนใครจะหาว่าผม “เกี้ยเซียะ” ยืนยันว่าคนอย่างผมตรงไปตรงมา เมื่อนายกฯ ขอเวลาจัดการ ผมก็ให้เวลาท่าน ส่วนจะให้เวลานานแค่ไหน ประชาชนอย่างผมจะไปบังคับอะไรท่านได้? ผมไม่ได้ชื่นชม และไม่ได้ตำหนินายกฯ แต่อย่างใด หากใครหาว่าผมชื่นชมท่าน บาปกรรมตาย แล้วผมจะจับตาดูว่า นายกฯ ที่เป็นชายชาติทหาร ส่วนผมก็เป็นลูกผู้ชายพร้อมที่จะรอ ว่าท่านจะจัดการให้ผมจริงหรือไม่? ยืนยันว่าเรื่อง “ทุนจีนสีเทา” กระทบต่อสังคม เศรษฐกิจ และความมั่นคง
ที่นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้นำสูงสุดของประเทศจะต้องลงมือจัดการด้วยตัวเอง เมื่อวันนี้ท่านให้สัญญากับประชาชนอย่างผมแล้วหากไม่รักษาสัญญา
คอยดูแล้วกันว่า ประชาชนอย่างผมจะลงโทษท่านในการเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างไร?”
Pomerantz LLP ซึ่งมีสำนักงานในนิวยอร์กชิคาโกล อสแอ งเจลิสปารีสและเทลอาวีฟได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำในด้านการดำเนินคดีระดับองค์กร หลักทรัพย์ และการต่อต้านการผูกขาด Pomerantz ก่อตั้งโดยAbraham L. Pomerantz ผู้ล่วงลับ ไปแล้ว หรือที่รู้จักกันในนามคณบดีของกลุ่มการดำเนินการแบบกลุ่ม โดย Pomerantz เป็นผู้บุกเบิกด้านการดำเนินการแบบกลุ่มหลักทรัพย์ วันนี้ 85 ปีต่อมา Pomerantz ยังคงดำเนินตามประเพณีที่เขาสร้างขึ้น ต่อสู้เพื่อสิทธิของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการฉ้อโกงหลักทรัพย์ การละเมิดหน้าที่ความไว้วางใจ และการประพฤติมิชอบขององค์กร บริษัทได้เรียกคืนรางวัลความเสียหายมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ในนามของสมาชิกในกลุ่ม ดูwww.pomlaw.com _
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> ดัมมี่ออนไลน์ ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ ufabet 2023 แทงบอลออนไลน์ สล็อตแตกง่าย