ตร. เผยยอดตายเหตุ กราดยิงโคโลราโด อยู่ที่ 10 ศพ

ตร. เผยยอดตายเหตุ กราดยิงโคโลราโด อยู่ที่ 10 ศพ

เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุ กราดยิงโคโลราโด ว่าอยู่ที่ 10 ศพ ยืนยันว่าควบคุมผู้ต้องสงสัยได้แล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะเร่งสืบสวนต่อไป เมื่อวันที่ 23 มีนาคม สำนักข่าว CNN รายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เปิดยอดผู้เสียชีวิตในเหตุราดยิง ซุปเปอร์มาร์เก็ต ในรัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกา ว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ 10 ศพ โดยในจำนวนผู้เสียชีวิตมีเจ้าหน้าที่ตำรวจรวมอยู่ด้วย 1 นาย

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า นายตำรวจที่เสียชีวิตเป็นเจ้าหน้าที่คนแรกที่ถึงที่เกิดเหตุ 

เมื่อช่วงเวลาประมาณ 14.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยกย่องว่า นายตำรวจที่เสียชีวิตเป็นวีรบุรุษในเหตุความรุนแรงครั้งนี้ นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ยืนว่าพวกเขาสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้แล้ว และขอให้ประชาชนมั่นใจว่าในขณะนี้ชุมชนปลอดภัยแล้ว อย่างไรก็ดีทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบถึงตัวตนของผู้ต้องสงสัย และขณะนี้ยังไม่ทราบถึงมูลเหตุจูงใจ

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าพวกเขาจะพวกเขาจะเปิดเผยรายละเอียดของเหตุการณ์ครั้งในช่วงเช้าของวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น

แอสตราเซเนกา ยืนยันว่าวัคซีน ปลอดภัย หลังจากที่ไม่พบปัญหาลิ่มเลือดอุดตันกับอาสามสมัครกว่าสามหมื่นคนที่เข้ารับวัคซีนดังกล่าว เมื่อวันที่ 22 มีนาคม สำนักข่าว BBC รายงานผลการทดลองวัคซีนแอสตราเซเนกา วัคซีนต้านโควิด-19 ที่ทำการทดลองกับอาสาสมัครกว่า 32,000 คนในสหรัฐอเมริกา, ชิลี และ เปรู พบว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพร้อยละ 79 ในการป้องกันอาการป่วยของโรคโควิด-19 และมีประสิทธิภาพร้อยละร้อยในการป้องกันให้ผู้รับวัคซีนป่วยหนักจากโรคโควิด

นอกจากนี้จากทดลองยังพบว่าวัคซีนไม่เป็นอันตรายต่อผู้รับวัคซีน และไม่พบอาสาสมัครแสดงอาการลิ่มเลือดอุดตัน ดั่งที่เกิดขึ้นในทวีปยุโรปเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านๆมา จนทำให้เกิดการระงับการฉีดเป็นการชั่วคราว

ในการทดลองครั้งนี้ยังสามารถยืนยันถึงประสิทธิภาพในการใช้กับประชาชนที่มีอายุมากกว่า 65 ปีอีกด้วย เนื่องจากในกลุ่มอาสาสมัครมีกลุ่มคนชรารวมอยู่ด้วย ซึ่งจากการทดสอบพบว่าวัคซีนสามารถปกป้องคนชราได้เท่ากับกลุ่มอื่นๆ

ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าทางการสหรัฐฯน่าจะอนุมัติใช้วัคซีนชนิดดังกล่าวในช่วงเดือนหรือสองเดือนที่จะถึงนี้ โดยปัจจุบันสหรัฐฯได้มีการใช้วัคซีน โมเดอร์นา, ไฟเซอร์ และ จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ในการต่อสู้กับโรคโควิด-19

นายกปากีฯ ติดโควิด หลังฉีดวัคซีน

นายกปากีสถาน ติดโควิด หลังฉีดวัคซีน ยี่ห้อซิโนฟาร์มได้ 2 วัน ทั้งนี้ รมว.สาธารณสุขยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องแปลก เนื่องจากภูมิต้านทานสร้างไม่ทัน เมื่อวันที่ 21  มีนาคม สำนักข่าว CNN รายงานว่า รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของประเทศปากีสถาน เปิดเผยว่า นาย อิมราน ข่าน นายกรัฐมนตรีถูกตรวจพบว่าป่วยเป็นโรคโควิด-19 หลังจากที่ได้รับการฉีดวัควัคซีนต้านโควิด-19 ยี่ห้อ ซิโนฟาร์ม เพียงแค่ 2 วัน

โดยรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขระบุว่าขณะนี้นาย ข่าน และภริยา เข้ารับการกักตัวที่บ้านของตนเอง

ทั้งนี้ทางการออกมายืนยันว่า ไม่ใช่เรื่องแปลกหลังจากที่นาย ข่าน ติดโควิด แม้จะฉีดวัคซีนป้องกันไปแล้วก็ตาม เนื่องจาก นายกฯเพิ่งรับวัคซีนไปเพียงแค่เข็มเดียวและเพิ่งรับวัคซีนได้เพียงแค่สองวัน ซึ่งถือเป็นเวลาที่น้อยเกินไป ที่ร่างกายจะสร้างภูมิต้านมาได้

ซึ่งทางการยังได้อธิบายเพิ่มเติมอีกว่าภูมิต้านทานจะก่อตัวขึ้นราวๆสองถึงสามสัปดาห์ หลังจากได้รับวัคซีนโควิดโดสที่สอง ขณะนี้ประเทศปากีสถานมียอดผู้ป่วยสะสมมากกว่า 6 แสนราย และมีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 13,000 ศพ ซึ่งทางการได้เริ่มฉีดวัคซีนโควิดแล้ว โดยซิโนฟาร์มคือยี่ห้อเดียวที่ทางการฉีดให้ประชาชน

บอริส จอห์นสัน นายกอังกฤษ เตรียมเข้า ฉีดวัคซีนโควิด แอสตราเซเนกา หลัง EMA ยืนยันว่าวัคซีนปลอดภัย เมื่อวันที่ 19 มีนาคม สำนักข่าว BBC รายงานว่า นาย บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เตรียมเข้ารับการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา หลังจากที่ องค์การยาแห่งสหภาพยุโรป หรือ EMA ได้ตรวจสอบวัคซีนแอสตราเซเนกา ได้ออกมายืนยันว่าวัคซีนแอสตราเซเนกานั้นปลอดภัยและไม่ได้เป็นต้นเหตุให้เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน

โดยผู้นำอังกฤษระบุว่า สิ่งที่ไม่ปลอดภัยคือการติดโควิด-19 และด้วยเหตุนี้มันจึงเป็นเหตุจำเป็นมากว่าประชาชนทุกคนควรเข้ารับวัคซีนป้องกันโควิดเมื่อถึงคิวของตนเอง ซึ่งนายกฯอังกฤษระบุว่า การฉีดวัคซีนเป็นหนทางสำคัญที่จะช่วยให้ทางการสามารถผ่อนมาตรการล็อคดาวน์ได้

ขณะเดียวกัน นาย คริส วิตตี้ หัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ของอังกฤษ เปิดเผยว่ามีประชาชนที่เลือกจะไม่เดินทางเข้ารับฉีดวัคซีนหลังมีรายงานถึงอาการลิ่มเลือดอุดตันหลังฉีดวัคซีนโควิด ทั้งนี้นายวิตตี้เชื่อว่าประชาชนจำนวนมากยังคงจะเดินทางมารับวัคซีน เนื่องจากโควิดเป็นโรคที่อันตราย

ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ทาง EMA ยืนยันว่าวัคซีนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการอาการลิ่มเลือดอุดตัน พร้อมกล่าวอีกว่าวัคซีนชนิดนี้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ประโยชน์ในการป้องกันประชาชนจากโรคโควิด-19 มีมากกว่าความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการฉีดแอสตราเซเนกา

แนะนำ : ดูดวงไพ่ยิปซี | รีวิวที่พัก | รีวิวคาเฟ่ | วิธีลดน้ำหนัก | รีวิวอนิเมะ ญี่ปุ่น